กระจกตาบาง กระจกตา มีลักษณะเป็นรูปโดมโปร่งใสซึ่งปกคลุมด้านหน้าของดวงตา มีหน้าที่สำคัญสำหรับการเพ่งพินิศแสงสว่างไปที่เรตินา ทำให้พวกเราแลเห็นได้แน่ชัด หมายถึงกระจกตาที่มีความครึ้มหรือความลึกน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกระจกตาโดยเฉลี่ย สภาวะนี้อาจมีผลพวงต่อร่างกายดวงตารวมทั้งกระบวนการปรับปรุงการมองมองเห็น ยกตัวอย่างเช่น การผ่าตัดเลสิค แนวทางแก้ไขปัญหาค่าสายตาแตกต่างจากปกติ ไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด หรือสายตาเอียง สามารถปรับปรุงได้ด้วยการใส่แว่นตา หรือใส่คอนแทคเลนส์ แม้กระนั้นแนวทางพวกนี้เป็นเพียงแค่แนวทางแก้ปัญหาเพียงแต่ชั่วครั้งคราวแค่นั้น นอกเหนือจากการสวมแว่นสายตารวมทั้งคอนแทคเลนส์แล้ว ยังมีอีกแนวทางซึ่งสามารถขจัดปัญหาค่าสายตาได้ ที่จะสามารถช่วยทำให้ลักษณะท่าทางดูดีขึ้น แล้วก็มีอิสระสำหรับการดำรงชีวิตมากยิ่งขึ้น นั้นเป็น “กระบวนการทำเลสิค (LASIK)” เป็นเยี่ยมในส่วนประกอบสำคัญของดวงตา รวมทั้งการมองมองเห็น ถ้าเกิดผู้ใดที่มีปัญหา บางทีอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสายตาของพวกเราได้ รวมทั้งปัญหา ยังเป็นเลิศในข้อจำกัดแนวทางการทำเลสิก
กระจกตามีปัญหา จะ ทำเลที่ตั้งสิค ได้ไหม เมื่อมีปัญหาสายตา ไม่ว่าจะสั้น ยาว เอียง เป็นคนใดกันก็ต้องการปรับปรุง เพราะเหตุว่าเมื่อแลเห็นไม่ชัดเจน ก็มีผลทำให้ทำงานประจำวันต่างๆได้ไม่สบาย เป็นปัญหาในการดำเนินชีวิตทุกวัน คนจำนวนไม่น้อยก็เลยจำเป็นต้องพึ่งพิงการใช้แว่นตา คอนแทคเลนส์ ไปจนกระทั่ง ทำเลที่ตั้งสิค แม้กระนั้นคุณรู้หรือเปล่าว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำเลที่ตั้งสิคได้ การดูแลและรักษาสายตาที่ไม่ดีเหมือนปกติด้วยแนวทาง LASIK, FemtoLASIK หรือ ReLEx กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ แต่ว่าคุณรู้ไหมว่า การดูแลและรักษาสายตาที่ไม่ดีเหมือนปกติด้วยวิธีการแบบนี้มีเงื่อนไขที่จำต้องตรวจเช็คให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจทำ
ผู้ที่มีปัญหาที่กระจกตา บางทีอาจรู้สึกตื่นตระหนกและไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถทำเลที่ตั้งสิคได้หรือเปล่า แม้กระนั้นอันที่จริงแล้ว มีโรคที่จำพวกที่เมื่อรักษาแล้ว ก็สามารถทำเลที่ตั้งสิคได้ ปัญหากระจกตาที่เป็นแล้ว ไม่อาจจะรักษาสายตาไม่ดีเหมือนปกติด้วยกระบวนการทำเลสิคได้เลย ปัญหาประเภท เมื่อเป็นแล้ว จะไม่อาจจะทำเลที่ตั้งสิคได้ ตัวอย่างเช่น คนที่มีปัญหามากมายๆหรือ ความครึ้มของกระจกตาน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับระดับความไม่ดีเหมือนปกติของสายตา แต่ว่าคนป่วยยังมีทางเลือก เป็นสามารถรักษาด้วยการใช้เลนส์เสริมได้ คนที่มีปัญหา กระจกตาย้วย หรือ กระจกตาโก่ง (Keratoconus) เป็นความเปลี่ยนไปจากปกติซึ่งเป็นผลมาจากความเคลื่อนไหวทางองค์ประกอบข้างในกระจกตา ทำให้กระจกตามีความงอ รวมทั้ง โก่งตัวมากยิ่งกว่าธรรมดา ร่วมกับมีการบางตัวของกระจกตา
ปัญหากระจกตาที่เป็นแล้วสามารถรักษาสายตาไม่ดีเหมือนปกติด้วยเลเซอร์ได้ กระจกตาบาง
รอยแผลที่กระจกตาจางสามารถรักษาด้วยการใช้แนวทาง PRK ( Photorefractive Keratectomy ) ได้โรคตาแห้ง สุดที่รักษากระทั่งก็ดีความโค้งงอกระจกตายังไม่เหมาะสม เนื่องด้วยถอดคอนแทคเลนส์ยังไม่ครบช่วงเวลาที่ระบุหรือยังไม่เพียเพียงพอ หรือความงอของกระจกตาอยู่ในกณฑ์ก้ครึ่งสงสัยโรคกระจกตาโก่ง แม้กระนั้นตรวจติดตามหรือตรวจเพิ่มแล้วธรรมดา ปัญหากระจกตาที่เป็นแล้วไม่อาจจะรักษาสายตาไม่ดีเหมือนปกติด้วยแนวทางเลสิกคนที่มีปัญหามากมายหรือความครึ้มของกระจกตาน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับระดับความแตกต่างจากปกติของสายตา แต่ว่ามีทางเลือกเป็นสามารถรักษาด้วยการใช้เลนส์เสริมได้คนที่มีปัญหากระจกตาย้วยหรือกระจกตาโก่งเป็นความไม่ปกติซึ่งมีสาเหตุมาจากความเคลื่อนไหวทางองค์ประกอบด้านในกระจกตา ทำให้กระจกตามีความโค้งงอแลโก่งตัวมากยิ่งกว่าธรรมดาร่วมกับมีการบางตัวของกระจกตา
ข้อเสนอแนะคนที่มีปัญหาจำพวก ยังได้โอกาสรักษาภาวการณ์สายตาไม่ปกติด้วยแนวทางเลสิก แต่ว่าจะต้องผ่านการวัดแล้วก็ตรวจพินิจพิจารณาภาวะตาอย่างระมัดระวัง เพื่อหมอรักษาสายตาประเมิน และก็เสนอแนะการดูแลรักษาที่สมควรถัดไปปัญหากระจกตาที่เป็นแล้ว สามารถรักษาสายตาไม่ดีเหมือนปกติด้วยวิธีการทำเลสิคได้ปัญหาโรค เมื่อเป็นแล้ว และก็ได้รับการดูแลและรักษาแล้ว จะสามารถรักษาสายตาแตกต่างจากปกติด้วยแนวทาง LASIK, FemtoLASIK หรือ ReLEx ได้ อาทิเช่น
โรคต้อลิ้นหมา ข้างหลังผ่าตัดลอกต้อลิ้นหมา 2 เดือน สามารถมาตรวจพินิจพิจารณาภาวะตา ก่อนกระทำรักษาได้กระจกตาไม่เรียบ ที่เกิดขึ้นจากตาแห้งความงอกระจกตายังไม่เหมาะสม เหตุเพราะถอดคอนแทคเลนส์ยังไม่ครบช่วงเวลาที่ระบุ หรือยังไม่พอ หรือความโค้งงอของกระจกตาเข้าขั้นไม่ดีเหมือนปกติ มีภาวการณ์สงสัยโรคกระจกตาโก่ง จะมองเห็นได้ว่า คนที่มีปัญหาจำพวก ก็ยังมีหวังที่จะรักษาอาการไม่ดีเหมือนปกติของดวงตาได้ด้วยแนวทางการทำเลสิค แต่ว่าที่สำคัญเป็น จำเป็นต้องผ่านการวัดและก็ตรวจพินิจพิจารณาภาวะตาอย่างระมัดระวังโดยหมอรักษาสายตาซะก่อน เพื่อที่หมอรักษาตาจะได้ประเมิน แล้วก็ ชี้แนะการดูแลและรักษาที่สมควรถัดไป
ทำความรู้จักภาวการณ์ เป็นกระจกตาที่มีความครึ้มน้อยกว่า 500 ไมครอนหรือ 0.5 มม. โดยปกติ ไม่ใช่โรค ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำรักษา แม้กระนั้นมีผลต่อการประเมิที่โรคบางชนิด ดังเช่นต้อหิน ทำให้วัดความดันตาได้ต่ำลงยิ่งกว่าความจริง รวมทั้งมีผลต่อการพินิจเลือกกรรมวิธีปรับปรุงสายตา ตัวอย่างเช่นจำเป็นต้องเลือกทำ PRK หรือใส่ ICL กระจกตาบาง แทนกระบวนการทำ LASIK ก่อนตรึกตรองทำเลที่ตั้งสิก คนเจ็บก็เลยต้องได้รับการคาดคะเนก่อนที่จะมีการผ่าตัดอย่างพิถีพิถัน เนื่องจากว่าถ้าหากมีการเจียรเนื้อกระจกตา จนกระทั่งเหลือความดกกระจกตาน้อยกว่ามาตรฐาน อาจมีผลพวงต่อร่างกายตาได้ ดังเช่นว่า กำเนิดสายตาเอียงมากมายเปลี่ยนไปจากปกติ มีภาวการณ์กระจกตาย้วย ที่มีผลเสียต่อการมองมองเห็น
เนื่องจากว่าเหตุผลใด ก็เลยทำให้ดกขึ้นมิได้ คนไม่ใช่น้อยบางทีอาจสงสัยว่า ปัญหา ปรับแต่งได้ไหม ?
มีแนวทางเพิ่มความครึ้มกระจกตาหรือเปล่า ? ความดกของกระจกตา ไม่อาจจะเพิ่มได้ เพราะเป็นความไม่ดีเหมือนปกติจากส่วนประกอบในชั้นกระจกตา แล้วก็ในเรื่องที่จากแนวทางการทำเลสิก เมื่อเจียรเนื้อกระจกตาแล้ว จะไม่สามารถที่จะทำให้กระจกตากลับมาครึ้มอย่างเช่นเดิมได้ มีลักษณะเป็นชั้นสโตรมอลซึ่งเป็นส่วนประกอบส่วนประกอบหลักของกระจกตาที่มีความครึ้มน้อยลง ถึงแม้ความครึ้มของกระจกตาโดยเฉลี่ยจะอยู่ระหว่างราว 500 – 600 ไมครอน แม้กระนั้นกระจกตาจะนับว่าบาง ถ้าเกิดความดกต่ำยิ่งกว่ามาตรฐานที่ระบุ ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ราวๆ 500 ไมครอนหรือน้อยกว่านี้ การประมาณความดกของกระจกตามีความหมายอย่างมากสำหรับการประเมินสุขภาพดวงตาแล้วก็การพิเคราะห์ความน่าจะเป็นไปได้ สำหรับเพื่อการคิดแผนหาวิธีปรับปรุง ยกตัวอย่างเช่นกระบวนการทำ เลสิค
การวิเคราะห์ การประมาณความดกของกระจกตาเป็นวัสดุวิเคราะห์ที่สำคัญ สำหรับการประเมินภาวะดวงตาต่างๆรวมทั้งโรคต้อหินรวมทั้งโรคกระจกตา ความเคลื่อนไหวความดกของกระจกตาเมื่อเวลาผ่านไป บางทีอาจบ่งถึงพยาธิภาวะหรือการยืนขึ้นลุกลามของโรค กระตุ้นให้มีการประเมินรวมทั้งการจัดการเสริมเติม ข้อควรตรึกตรองสำหรับเพื่อการปรับแก้การมองมองเห็น สำหรับคนที่มี บางทีอาจพิเคราะห์ช่องทางสำหรับการปรับแต่งการมองมองเห็นซึ่งในขณะนี้มีหลายแนวทาง ดังเช่น การผ่าตัดปรับปรุงสายตาด้วยแสงสว่าง (PRK) หรือคอนแทคเลนส์แบบฝัง (ICL) บางทีอาจเป็นหนทางที่สมควรในการผ่าตัดเลสิค เพื่อการปรับแก้การมองมองเห็น ในเวลาเดียวกันก็ลดการเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวโยงกับได้รวมทั้งก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดปรับปรุงแก้ไขการมองมองเห็น คนที่มีควรต้องได้รับการคาดการณ์ก่อนจะมีการผ่าตัดอย่างประณีตเพื่อประเมินความครึ้มของกระจกตา ความงอ และก็สุขภาพตาโดยรวม การคาดการณ์นี้ช่วยพินิจผู้สมัครเข้ารับการดูแลและรักษา ได้แก่ เลสิค และก็เป็นแถวทางในการตัดสินใจสำหรับในการรักษา
กระจกตาที่มีความครึ้มน้อยลง ซึ่งบางทีอาจมีผลต่อสุขภาพดวงตาแล้วก็สร้างปัญหาการมองมองเห็นได้ วิธีการทำความรู้ความเข้าใจกายส่วนของกระจกตา การประมาณความครึ้มของกระจกตา มีความจำเป็นเป็นอย่างมาก ประยุกต์ใช้สำหรับในการวางแผนรักษา รวมทั้งค้ำประกันสุขภาพและก็ความมั่นคงและยั่งยืนของดวงตาในระยะยาว ส่วนที่อยู่หน้าสุดของดวงตา มีลักษณะโค้งและก็โปร่งใสไม่มีสี ปกคลุมอยู่ข้างหน้าสุดรอบๆตาดำ ปฏิบัติหน้าที่ช่วยสำหรับในการหักเหแสงสว่าง แล้วก็ช่วยปรับให้แลเห็นได้แน่ชัด นับว่าเป็นด่านแรกสำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องเชื้อโรค โดยทั่วไปแล้วกระจกตาจะมีความดกอยู่ที่ 551 ไมครอน ยิ่งกว่านั้นความครึ้มของกระจกตาสามารถน้อยลงตามอายุได้ ซึ่งกระจกตาสามารถแบ่งได้ทั้งสิ้น 5 ชั้น ตัวอย่างเช่น
Epithelium เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด ปฏิบัติภารกิจคุ้มครองปกป้องไม่ให้สารเคมี น้ำ แล้วก็เชื้อโรคเข้าตา ถ้าเกิดกำเนิดรอยแผลชอบ กระจกตาบาง กำเนิดที่รอบๆชั้นนี้ ซึ่งแผลสามารถหายเองได้ข้างใน 1 อาทิตย์ Bowman’s Layer ชั้นนี้จะช่วยรักษารูปร่างของกระจกตา Stroma เป็นชั้นที่มีความดกรวมทั้งแข็งแรงเยอะที่สุด ถ้าชั้นนี้กำเนิดรอยแผลจะนำมาซึ่งการทำให้ดวงตาเป็นสีขาวขุ่นไม่ใสราวกับคนธรรมดา Descemet’s membrane เป็นชั้นที่มีความยืดหยุ่นสูง เป็นชั้นที่มี Endothelial cells Endothelium เป็นชั้นที่อยู่ข้างในสุด ปฏิบัติหน้าที่ดูดน้ำออกมาจากกระจกตาเพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้กระจกตาบวมน้ำรวมทั้งช่วยทำให้กระจกตาใสอยู่เสมอ ดังนี้ ธรรมดาตามธรรมชาติของกระจกตา มักมีความโค้งงอในแนวดิ่งแล้วก็แนวยาวแตกต่างกัน ถ้าหากความงอของกระจกตาในแนวดิ่งและก็แนวยาวแตกต่างกันมากมาย จะก่อให้กำเนิดค่าสายตาไม่ดีเหมือนปกติประเภทหนึ่ง ที่เรียกกันว่าสายตาเอียง (Astigmatism) นั้นเอง https://rediceradio.net/
เป็นผลมาจากเหตุผลใด บางบุคคลที่อยากปรับปรุงแก้ไขค่าสายตาเปลี่ยนไปจากปกติด้วยแนวทางเลสิค
แม้กระนั้นไม่อาจจะทำเป็น เนื่องมาจากมีมากมาย ซึ่งมูลเหตุหลักที่ทำให้มักมาจาก “โรคกระจกตาโป่งพอง” หรือ ทางหมอนิยมเรียกว่า Keratoconus โรคกระจกตาโป่งพองหมายถึงภาวการณ์แตกต่างจากปกติของกระจกตาทำให้ความดันข้างในตา ดันกระจกตาออกมา ทำให้ส่วนมีการนูนตัวขึ้นมา มีลักษณะเป็นทรงกรวย (ยอดแหลม) ถ้ากระจกตานูนขึ้นมามีลักษณะเป็นทรงกลมเรียกว่า Keratoglobus หรือถ้าเกิดกระจกตานูนเฉพาะรอบๆขอบตาดำ เรียกว่า Pellucid Marginal Degeneration (PMD)
การตรวจวิเคราะห์กระจกตา การตรวจวิเคราะห์ สามารถทำได้ด้วยการวัดความครึ้มของกระจกตา โดยมีเครื่องที่เรียกว่า Pachymetry แล้วก็ใช้เครื่องไม้เครื่องมือชื่อ Corneal tomography สำหรับตรวจประเมิที่ความโค้งงอกระจกตาโดยยิ่งไปกว่านั้น ใช้เพื่อชี้ความแตกต่างจากปกติของความงอกระจกตาจากการที่มี กระจกตา กับปัญหาค่าสายตา ทำเลที่ตั้งสิคมิได้ จริงหรอ ? สิ่งสำคัญหนึ่งที่จำต้องเอามาไตร่ตรองเลือกแนวทางรักษาปัญหาสายตาหมายถึงความครึ้มของกระจกตา เพราะเหตุว่าในกรณีผู้ที่มีมากมาย หมอรักษาตาบางทีอาจไม่ชี้แนะให้รักษาปัญหาสายตาด้วยการใช้เลเซอร์ ดังเช่นว่า LASIK, ReLex รวมทั้งอื่นๆแต่ว่าบางทีอาจเสนอแนะวิธีทางเลือกอื่นๆแทน ได้แก่ การผ่าตัดใส่เลนส์เสริม (ICL)
หรือกระจกตาที่มีความครึ้มน้อยกว่า 0.5 มม. กำเนิดได้จากทางพันธุกรรมหรือมีโรคตา
อย่างกระจกตาย้วย โดยภาวการณ์ ยังเป็นข้อกำหนดสำหรับการทำเลที่ตั้งสิก ดังนี้ ผู้ใดกันแน่ที่มีปัญหา แล้วก็ปรารถนารักษาปัญหาสายตาอย่างสายตาสั้น กระจกตาบาง ยาว เอียง หมอบางทีอาจชี้แนะวิธีทางเลือกอื่นๆยกตัวอย่างเช่น การผ่าตัดใส่เลนส์เสริม (ICL) แทนการดูแลและรักษาด้วยเลเซอร์ จะมองเห็นได้ว่า คนที่มีปัญหาประเภท ก็ยังมีหวังที่จะรักษาอาการเปลี่ยนไปจากปกติของดวงตาได้ด้วยแนวทางการทำเลสิค แต่ว่าที่สำคัญเป็น จำเป็นต้องผ่านการวัดรวมทั้งตรวจพินิจพิจารณาภาวะตาอย่างรอบคอบโดยหมอรักษาสายตาซะก่อน เพื่อที่หมอรักษาสายตาจะได้ประเมิน แล้วก็ เสนอแนะการดูแลรักษาที่สมควรถัดไป สำหรับคนที่มีปัญหา “สามารถทำเลที่ตั้งสิคได้” เพียงแค่สามารถทำเป็นเพียงแค่ 2 แบบเพียงแค่นั้นหมายถึงPRK (Photorefractive Keratectomy) หรือ การผ่าตัดใส่เลนส์เสริม ICL เพราะว่าแนวทางการทำ PRK จะไม่แยกชั้นกระจกตาออก และก็ แนวทางการทำ ICL เป็นการนำเลนส์เสริมมาใส่ไว้ในดวงตา ก็เลยเป็นแนวทางที่เหมาะกับคนที่มีปัญหา
คนที่มีภาวการณ์จะไม่อาจจะทำเลที่ตั้งสิกแบบอื่นได้ ดังเช่น ReLEx Smile, Femto Lasik และก็ Microkeratome Lasik เนื่องจากว่ากระบวนการทำเลสิกแบบที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นการผ่าตัดที่ทำให้ลง คนที่มีปัญหาอยู่แล้วอาจจะส่งผลให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวการณ์กระจกตาย้วยข้างหลังทำเลที่ตั้งสิก (Post Lasik Corneal Ectasia) หรือกระจกตาขุ่นได้ ดังนี้คนที่มีภาวการณ์ ต้องผ่านการวัดแล้วก็ตรวจพินิจพิจารณาภาวะตาอย่างละเอียดลออ โดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อหมอรักษาสายตาประเมิน แล้วก็ชี้แนะแนวทางรักษาที่เยี่ยมที่สุด โดยเหตุนั้นประโยคที่พูดว่า ทำเลที่ตั้งสิคมิได้ ไม่เป็นความจริง เพราะว่า สามารถรักษาได้ด้วย PRK แล้วก็ การผ่าตัดเลนส์เสริม ICL สภาวะ มีเหตุที่เกิดจาก โรคกระจกตาโป่งพอง ภาวการณ์ไม่ปกติของกระจกตาทำให้ความดันด้านในตาดันกระจกตาออกมา ทำให้ส่วนมีการนูนตัวขึ้นมา นำมาซึ่งการทำให้ลง และก็ยังมีมูลเหตุอื่นที่ทำให้ลง อย่างเช่น กรรมพันธุ์, โรคบางจำพวก รวมทั้งการขยี้ตาแรงๆเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน