หลานม่า ดูหนังออนไลน์ มีหนังฟรีให้เลือกดูกว่า 10,000 เรื่อง

หลานม่า

หลานม่า  เกิดเรื่องราวที่มีเค้าแรงกระตุ้นมาจากข้อพิสูจน์ในครอบครัวสังคมไทย1 ผ่านผู้แสดงของ เอ็ม (ความมั่งมีโคตร อัสสรัตนกุล) ที่ตกลงปลงใจลาออกจากงานประจำ กลับมาดำรงชีพร่วมกับ อาม่าเหม้งจู (เช้า เสมคำ) ผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของครอบครัว ด้านหน้าที่ดูเหมือนกับว่าหลานมาดูแลอาม่าในส่วนปลายชีวิต แต่ตามที่เป็นจริงแล้วเอ็มมีจุดมุ่งหมายอะไรบางอย่างแอบอยู่ ด้านหลังได้รู้ว่า มุ่ย (ต้นดวงตะวัน ตันว่าขานเวชกุล) ได้รับมรดกก้อนใหญ่เป็นบ้านราค้างสิบล้านบาทจากอากง เอ็มก็เลยจำเป็นต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออาม่าไว้เนื้อเชื่อใจ แม้กระนั้นกำแพงที่อาม่าตั้งไว้ ทำให้เอ็มได้เริ่มทำความเข้าใจการใช้ชีวิตไปทีละเล็กละน้อยจนกระทั่งบางสิ่งบางอย่างถูกอาม่าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง วัยรุ่นที่เรียนไม่จบตกลงปลงใจมาทำหน้าที่มาดูแลอาม่าที่กำลังป่วยไข้ เนื่องจากหวังจะเป็นคนโปรด รวมทั้งได้รับมรดกตกทอดจากอาม่า

“” ภาพยนตร์ไทยเนื้อหาประทับใจจับใจผู้คนจนถึงมีชื่อเสียงโด่งดังและก็ปัดกวาดรายได้พร้อมพรั่งตั้งแต่เข้าฉายในแผ่นดินใหญ่ของจีนเมื่อช่วงปลายส.ค.ที่ผ่านมา โดยสามารถทำรายได้มากกว่า ร้อยล้านหยวน (ราว 469 ล้านบาท) และมีเรตถกเถียงอยู่ที่ 8.9 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนนจากผู้ชมภาพยนตร์กว่า 140,000 คนบนเว็บไซต์โต้วป้าน (Douban) แหล่งรวมรีวิวรวมทั้งคำติชมภาพยนตร์เชื้อชาติจีนนอกเหนือจากที่จะประสบความสำเร็จในจีนแล้ว ภาพยนตร์เรื่องยังได้รับความนิยมไปทั่วเอเซียอาคเนย์ โดยขึ้นแท่นภาพยนตร์ที่ทำเงินเยอะที่สุดของไทยในปี 2567 รวมทั้งเป็นภาพยนตร์ไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในมาเลเซีย, ประเทศสิงคโปร์ แล้วก็อินโดนีเซีย

“” ภาพยนตร์ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของหนุ่มที่เต็มใจขอดูแลย่าของตัวเองที่ป่วยในฐานะ “หลานชายที่แสนกตัญญูกตเวที” เพื่อหวังที่จะเป็นผู้ได้รับมรดกของย่า ถ้าว่าตอนท้ายกลับพบค่าแท้จริงจริงของความเกี่ยวเนื่องในครอบครัวสำนักข่าวซินหัวบอกว่า ผู้ชมชาวจีนจำนวนมากพบว่าครอบครัวชาวจีนโพ้นทะเลแต้จิ๋วที่ปรากฏในหนังเรื่องนี้มีความเหมือนกับครอบครัวของตน ทำให้พวกเขามีอารมณ์ร่วมไปกับภาพยนตร์จนกระทั่งน้ำตาซึม รวมทั้งเอามาสู่การแย้งเกี่ยวกับจริยธรรมของครอบครัวแล้วก็ปัญหาทางสังคมในวงกว้างพัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับรวมทั้งผู้ร่วมเขียนบทของภาพยนตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า ภาพยนตร์ประเด็นนี้พูดถึงความเชื่อมโยงในครอบครัวที่เราทุกคนรู้จักดีเป็นอย่างดี สิ่งนี้อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ “” เป็นที่ชื่นชอบรวมทั้งเข้าถึงผู้คนเห็นผลงานภาพยนตร์เกี่ยวกับครอบครัวชิ้นแรกของพัฒน์ โดยในตอนเริ่มบทภาพยนตร์นี้เขียนขึ้นโดยอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนบทอีกหนึ่งคนที่จึงควรดูแลย่าที่ป่วยตอนที่ตนยังเป็นเด็ก ซึ่งนักเขียนบททั้งสองคนได้ใช้เวลาถึง 2 ปีสำหรับในการอบรมบทภาพยนตร์ พร้อมเพิ่มรายละเอียดที่อ้างอิงจากผู้คนแล้วหลังจากนั้นก็สถานะการณ์จริงมากเพิ่มขึ้น

สำหรับพัฒน์ ผู้กำกับซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-จีน หลานม่า

เปิดเผยว่า การสร้างภาพยนตร์โดยอิงจากองค์ประกอบทางด้านวัฒนธรรมที่สั่งสมมาตั้งแต่รุ่นยายของเขา และสามารถนำภาพยนตร์มาเข้าฉายในจีนที่ซึ่งผลตอบรับของผู้ชม “เกินความหวัง” นั้นล้วนเป็นประสบการณ์ที่แสนพิเศษสำหรับเขาด้านทรงพล วงษ์คนดี ผู้อำนวยการฝ่ายขายและก็ธุรกิจประเทศนอกของจีดีเอช 559 (GDH 559) ซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนตร์มีชื่อเสียงเรื่องนี้ บอกว่า การที่เป็นที่ชื่นชอบในจีน เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จสำหรับในการส่งออกผลิตภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมของไทย โดยตลาดพลู ซึ่งเป็นตลาดในเขตจังหวัดธนบุรีของจังหวัดกรุงเทพมหานคร แล้วก็เป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของผู้เดินทางแล้วตอนนี้ทรงพลยังหวังว่า ลูกค้าชาวจีนจะเข้าดวงใจภาพยนตร์ไทยมากขึ้นเรื่อยๆผ่านจังหวะในตอนนี้ ซึ่งจะเป็นใบเบิกทางให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในตลาดวัฒนธรรมที่กว้างกว่าเดิมเฉลิมชาตรี ยุคล ประธานอนุกรรมการเขยื้อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์แล้วก็ซีรีส์ของคณะกรรมการที่มีความสำคัญในการรบซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติของไทย กล่าวมาว่าไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างแดนที่ได้รับความนิยมมาอย่างเป็นเวลายาวนาน เพราะเหตุว่ามีทิวภาพทางธรรมชาติที่งาม ตัวอย่างเช่น หาดทรายและก็เกาะต่างๆ

เฉลิมชาตรีเผยออกมาว่า ไทยรวมทั้งจีนมีความร่วมแรงร่วมใจรวมถึงการแลกเปลี่ยนด้านภาพยนตร์และก็วัฒนธรรมอื่นๆอย่างใกล้ชิดเยอะขึ้นโดยมีคณะทำงานภาพยนตร์ชาวจีนเดินทางมาถ่ายทำที่ไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆขณะภาพยนตร์และจากนั้นก็ซีรีส์บางเรื่องที่มีกลิ่นของไทยได้รับความนิยมในตลาดขนาดใหญ่ของจีนด้วยเหมือนกัน พร้อมเสริมว่าภาพยนตร์มีบทบาทสำคัญสำหรับในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม รวมถึงเราให้ความสำคัญต่อการผลักดันและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนแล้วก็ความร่วมแรงร่วมมือกับจีนในด้านอุตสาหกรรมนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเป้าหมายที่จีดีเอชประกาศขึ้นในงานแถลงข่าวทุกปี พ.ศ. 2566 ในชื่อ The Chinese Family รวมถึงวางเจาะจงฉายในช่วงปลายปีเดียวกัน แต่เพราะคิวฉายภาพยนตร์ซ้อนทับหลายเรื่องพร้อม จีดีเอชก็เลยได้เลื่อนกำหนดฉายภาพยนตร์ออกมาเป็น พ.ศ. 2567 ก่อนมีการจัดแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์อย่างเป็นทางการช่วงวันที่ 23 ก.พ. พ.ศ. 2567ในบ้านหับโห้หิ้น จังหวัดกรุงเทพ ซอยสุขุมวิท 31 ตำบล คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพ ก่อนปล่อยใบปิดภาพยนตร์ รวมทั้งตัวอย่างภาพยนตร์ในวันเดียวกัน

 

 

หลานม่า

 

 

อีกหนึ่งเดือนถัดมา จีดีเอชได้ประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์โดยออกประกาศหยุดพิเศษในวันแรกของการฉายภาพยนตร์ดังกล่าวข้างต้น

เพื่อพนักงานได้กลับไปอยู่บ้านไปใช้เวลาร่วมกันกับคนที่รำลึกถึง หรือจะพาคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวไปใช้เวลามองภาพยนตร์นี้ด้วยกันในโรงภาพยนต์ แล้วต่อจากนั้นก็มีบริษัทอื่น ดังเช่นว่า กันตนา สมอลล์รูม อื่นๆอีกมากมาย ออกประกาศในลักษณะเดียวกันนอกจากนั้นยังมีการนำภาพดารานำทั้งสองพร้อมเนื้อความไปตั้งขึ้นบริเวณประตูม้วนเหล็กที่รอบๆบรรทัดทอง, สีลม รวมทั้งลาดพร้าว อีกด้วย”” จัดงานเปิดตัวพร้อมฉายรอบรอบปฐมฤกษ์ช่วงวันที่ 1 เดือนเมษายน พ.ศ. 2567ในโรงภาพยนต์พารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน ถนนพระรามที่ 1 ตำบลบัวก้านวัน เขตนิลุบลวัน กรุงเทพมหานคร โดยสำหรับในการฉายรอบดังที่กล่าวถึงแล้ว ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, สิริตระกูล อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และก็ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมมองภาพยนตร์ด้วย

กระแสตอบแรกของผู้ชมเป็นไปอย่างล้นหลาม เป็นภาพยนตร์ไทยที่มียอดจองตั๋วล่วงหน้ามากที่สุดของปี พ.ศ. 2567

ทำเงินเปิดตัววันแรกในเขตกรุงเทพฯ, บริเวณรอบๆรวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ 9.54 ล้านบาท11 (ทั่วราชอาณาจักร 21 ล้านบาท) เมื่อออกฉายครบสุดสัปดาห์แรก (4 วัน) ทำเงินในเขตจังหวัดกรุงเทพ, บริเวณรอบๆรวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ 48.68 ล้านบาท(ทั่วราชอาณาจักร 110 ล้านบาท)และด้านหลังออกฉายครบ 1 อาทิตย์ ทำเงินในเขตกรุงเทพฯ, ละแวกใกล้เคียง และจังหวัดเชียงใหม่ 83.13 ล้านบาทนอกจากนั้นยังทำเงินในเขตจังหวัดกรุงเทพมหานคร, ละแวกใกล้เคียง รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นชั้น 1 นานถึง 4 อาทิตย์ต่อเนื่องกัน

ด้านหลังเข้าฉายอาทิตย์ที่แปด ทำเงินรวมในเขตจ.กรุงเทพฯ, ละแวกใกล้เคียง แล้วก็จังหวัดเชียงใหม่ 167.87 ล้านบาท กลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดนิรันดร์ของค่ายจีดีเอช แซงหน้าภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส 2 จบโปรแกรมการฉาย (21 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 รวมทันเวลา 140 วัน) ทำเงินรวมในเขตจังหวัดกรุงเทพ, ละแวกใกล้เคียง รวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ 172.57 ล้านบาท รวมถึงทำเงินรวมทั่วราชอาณาจักร 339 ล้านบาทติดอันดับที่ 11 ภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินสูงสุดในประเทศไทย

บรรลุผลทั้งคำวิจารณ์และรายได้ในต่างประเทศ โดยเริ่มที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นที่แรก ออกฉายอย่างเป็นทางการช่วงวันที่ 15 พ.ค. พ.ศ. 2567 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างเหลือแหล่ เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดของจีดีเอชในประเทศอินโดนีเซีย เป็นภาพยนตร์ไทยทำเงินสูงสุดนิรันดร์ในอินโดนีเซีย แซงหน้าผู้ครอบครองสถิติเดิมอย่างภาพยนตร์ คนเข้าทรง หลังจากการเข้าฉาย 9 วันต่อมาได้สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ทวีปเอเชียทำยอดขายสูงสุดชั่วกัลปวสานในอินโดนีเซีย ทำลายสถิติเดิมของภาพยนตร์ประเทศเกาหลีใต้

ขุดมันขึ้นมาจากหลุม แล้วก็เดินหน้าทำยอดขายรวมสูงถึง 3.4 ล้านใบภาพยนตร์ประเด็นนี้ เป็นภาพยนตร์ไทยทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในมาเลเซียภายใน 10 วันนับตั้งแต่วันเข้าฉาย นำหน้าผู้ครอบครองสถิติเดิมอย่างภาพยนตร์เรื่อง ฉลาดมากจริงๆเกมส์คดโกง และได้รับตำแหน่งภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดในมาเลเซียต่อเนื่องกันถึง 2 อาทิตย์เมื่อเข้าฉายในประเทศประเทศสิงคโปร์ นอกเหนือจากการที่จะทำรายได้เปิดตัวสูงสุดชั่วกับชั่วกัลป์ ทำลายสถิติภาพยนตร์ พี่มากมายก่ายกอง..พระโขนง เมื่อปี พ.ศ. 2556 แล้ว ยังเป็นภาพยนตร์ไทยทำรายได้สูงสุดตลอดกาลด้านใน 11 วันด้านหลังเข้าฉาย แซงหน้าผู้ครอบครองสถิติเดิมอย่างภาพยนตร์ โลงต่อตาย ที่ครองสถิตินี้มายาวนานถึง 15 ปีได้เสร็จ เมื่อเข้าฉายในประเทศเวียดนาม ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ไทยทำรายได้เปิดตัวสูงสุดชั่วนิรันดร์และก็ด้านหลังเข้าฉายได้ 30 วัน

หลานม่า

แปลงเป็นภาพยนตร์ไทยทำรายได้สูงสุดชั่วกับชั่วกัลป์ในเวียดนาม แซงหน้าผู้ครอบครองสถิติเดิมอย่างภาพยนตร์

เอ็ม ที่ตกลงปลงใจดร็อปเรียนตอนปีสี่ เพื่อมาเอาดีทางการเป็นนักแคสต์เกม แม้กระนั้นทำอย่างไรก็ไม่รุ่ง เอ็มเลยคิดจะรวยด้วยการทำงานสบายๆแบบ มุ่ย ลูกพี่ลูกน้องที่รับดูแลอากงที่เจ็บไข้ระยะสุดท้าย จวบจนกระทั่งแปลงเป็นผู้สืบสายเลือดคนเดียวที่ได้รับมรดกเป็นบ้านราค้างกว่าสิบล้าน ทางการเป็นคนมั่งมีรออยู่ข้างหน้า เอ็มก็เลยเต็มใจไปดูแล อาม่า ที่ตรวจพบว่าเป็นโรคโรคมะเร็ง และน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกินปี โดยหวังจะได้มรดกหลักล้านเช่นกัน

เมื่อหลานกับอาม่าที่อายุห่างกันกว่า 50 ปี จะต้องมาอยู่ร่วมกัน การต่อปากต่อคำก็เลยเกิดขึ้นในทุกโมเมนต์ ถึงแม้ว่ามันกลับ เป็นตอนๆในเวลาที่ทำให้อาม่าลืมเหงาหงอย จากการเฝ้ารอลูกชายคนโต กู๋เคี้ยง ลูกสาวคนกลาง อย่าง แม่ของเอ็ม และลูกชายคนเล็กอปิ้ง กู๋โส่ย ที่จะมาพร้อมหน้ากันตามเทศกาลต่างๆเท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่างานที่เริ่มทำเนื่องจากหวังร่ำรวย จะทำให้คนห่วยแตกๆอย่างเอ็มได้รับรู้ว่าคำว่า “ครอบครัว” มีค่ามากกว่าเงิน ตกลงปลงใจดรอปเรียนตอนปีสี่ ิrediceradio

หลานม่า

เพื่อมาเอาดีทางการแคสต์เกมถึงแม้ว่าทำเช่นไรก็ไม่รุ่ง เอ็มเลยคิดว่าจะรวยด้วยการทำงานสบายๆแบบ มุ่ย (ตู ต้นดวงตะวัน) ลูกพี่ลูกน้อง ที่รับหน้าที่ดูแลอากงที่ป่วยไข้ระยะสุดท้าย จนตราบเท่าแปลงเป็นผู้สืบสายโลหิตเพียงคนเดียวที่ได้รับมรดกเป็นบ้านราค้างกว่าสิบล้านทางคนมั่งคั่งอยู่ด้านหน้า เอ็มก็เลยเต็มใจไปดูแลอาม่า (กะเทย-รุ่งสว่าง เสมคำ) ที่ตรวจพบว่าเป็นโรคโรคมะเร็ง และน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินปี โดยหวังว่าจะได้รับมรดกหลักล้านสิ่งเดียวกันเมื่อหลานกับอาม่าที่อายุห่างกันกว่า 50 ปี จำเป็นที่จะต้องมาอยู่ร่วมกัน การต่อปากต่อคำก็เลยเกิดขึ้นในทุกโมเมนต์แต่มันแปลงเป็นในตอนที่ให้อาม่าลืมหงอยเหงาจากการเฝ้ารอลูกชายคนโต กู๋เคียง (ดู๋ คำมั่นสัญญา) ลูกผู้หญิงคนกลางอย่าง แม่ของเอ็ม (เจีย สฤญรัตน์) แล้วหลังจากนั้นก็ลูกชายคนเล็กอปิ้ง กู๋โส่ย (เผือก พงศธร) ที่จะมาพร้อมหน้ากันตามเทศกาลต่างๆเท่านั้นเอง ไม่น่าเชื่อว่า งานที่เริ่มทำเนื่องจากหวังรวย จะทำให้คนเฮงซวยๆอย่างเอ็มได้ทราบว่า คำว่า “ครอบครัว” มีค่ามากกว่าเงิน